Cursor AI: สร้าง ‘สมอง’ ให้โปรเจกต์ เปลี่ยน AI ให้เป็นเพื่อนร่วมทีมสุดเฉียบ

เรื่องมันเริ่มจากที่เราไปเจอคลิปใน YouTube ช่องนึง (ช่องนี้เลย -> Dave's Dev Lab) เขาพูดถึงการสร้าง Cursor Rules พอดูจบก็แบบ... 'เฮ้ย! เจ๋งว่ะ' ประกอบกับช่วงนั้นเห็นคนอื่นเขาชอบสร้างบทบาท (Persona) ให้ AI เล่นกันดูแล้วน่าสนุกดี เลยเกิดไอเดียว่าเราน่าจะลองทำบ้าง

ก็เลยไปชวน "เฉียบ" (Gemini ของเรา) มาช่วยกันระดมสมองต่อยอดไอเดีย จนสุดท้ายมันก็งอกออกมาเป็น "ระบบสมองกลาง AI" ที่มีทีมงานครบเซ็ต งานนี้เลยต้องยกให้ เฉียบ (Tech Lead) เป็นพระเอก ส่วนผู้ช่วยก็คือ ฉุย (UI/UX) และ จดจำ (คอยจดบันทึก)

เราเลยอยากมาแชร์ไอเดียนี้ให้ดูกัน เป็นระบบที่เปลี่ยน AI ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นทีมงานที่ฉลาด มีความจำ และเข้าใจโปรเจกต์ของเราอย่างกับเป็นคนจริงๆ เลยล่ะ

หัวใจหลัก: แยก “สิ่งที่ต้องรู้” ออกจาก “วิธีที่ต้องทำ”

ไอเดียมันง่ายนิดเดียว คือเราจะแบ่งโครงสร้างออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ที่ทำงานคู่กัน คือ "สมอง" ที่เก็บความรู้ทั้งหมด กับ "กฎ" ที่บอกว่าต้องใช้ความรู้นั้นยังไง

1. The Brain: สมองกลางของโปรเจกต์ (/project-brain/)

ส่วนนี้คือ "คลังความรู้" หรือสมองของโปรเจกต์เลย เราจะเอาข้อมูลสำคัญทั้งหมดมายัดไว้ในนี้ เปรียบเสมือนเป็น Hard Disk ที่เก็บทุกอย่างที่เกี่ยวกับโปรเจกต์เอาไว้ ประกอบด้วย:

• PRD.md (Product Requirements Document): เหมือนเป็นคัมภีร์ของโปรเจกต์ที่บอกว่า ‘เรากำลังจะสร้างอะไรกันแน่’ สรุป Requirement, ฟีเจอร์, และเป้าหมายทั้งหมดไว้ในไฟล์เดียวจบ
• TASKS.md (Task Board): บอร์ดงาน เอาไว้บอกว่า ‘ตอนนี้ใครต้องทำอะไร’ มีลิสต์งานทั้งหมด สถานะ และคนรับผิดชอบชัดเจน
• logs/ (Daily Logs): โฟลเดอร์สำหรับเก็บ "ไดอารี่การทำงาน" แยกเป็นไฟล์ตามวัน เช่น 2025-07-13.md ทำให้เราและ AI ย้อนกลับไปดูได้ว่าเมื่อวานคุยอะไรกันไป หรือตัดสินใจอะไรไปบ้าง

สรุปง่ายๆ โฟลเดอร์ /project-brain/ คือส่วนของ "What" (ทำอะไร) และ "Why" (ทำไม) ของโปรเจกต์นั่นเอง

2. The Rules: กฎการทำงานของ AI (/.cursor/rules/)

ถ้า "สมองกลาง" คือคลังความรู้ ส่วนนี้ก็คือ "คู่มือการใช้งานสมอง" มันคือชุดคำสั่งที่เราเขียนขึ้นมาเพื่อ "สอน" AI ว่าควรจะประพฤติตัวอย่างไรให้เข้ากับทีมเรา ประกอบด้วย:

• team-persona.mdc: ไฟล์นี้เอาไว้บอก AI ว่า ‘เธอคือใคร!’ เช่น เรากำหนดว่า เฉียบคือ Tech Lead นะ ส่วนฉุยเป็น UI Designer พอได้รับบทบาทแล้ว AI ก็จะรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร
• project-context.mdc: กฎข้อนี้คือพระเอกเลย! เราสั่งให้ AI ต้องไปอ่านข้อมูลจาก /project-brain/ ทั้งหมดทุกครั้งก่อนเริ่มทำงานเสมอ
• coding-standards.mdc: กำหนดมาตรฐานการเขียนโค้ด เช่น สไตล์การจัดหน้า, การตั้งชื่อตัวแปร เพื่อให้โค้ดที่ AI สร้างออกมามีคุณภาพและเป็นระเบียบเหมือนกันหมด
• self-improvement.mdc: กฎสุดเจ๋งที่สอนให้ AI "เรียนรู้" จากการแก้ไขโค้ดของเรา พอมันเห็นว่าเราแก้โค้ดมันแบบไหน ครั้งต่อไปมันก็จะพยายามปรับสไตล์ให้เหมือนเรามากขึ้นเรื่อยๆ

โฟลเดอร์ /.cursor/rules/ ก็คือส่วนของ "How" (ทำอย่างไร) ที่จะหล่อหลอมให้ AI มีพฤติกรรมและความคิดเหมือนเป็นทีมงานของเราจริงๆ

---

จัดระเบียบกฎด้วย 'สารบัญกฎ'

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นไปอีก เราไม่ได้มีแค่กฎลอยๆ นะ แต่เราสร้างไฟล์พิเศษชื่อ cursor-rules.mdc ขึ้นมาทำหน้าที่เป็น "สารบัญกฎ" หรือกฎแม่บทที่คอยควบคุมกฎลูกๆ ทั้งหมดอีกที

ในสารบัญนี้ เราจะสรุปไว้เลยว่ามีกฎอะไรบ้าง แต่ละอันสำคัญแค่ไหน และใครต้องทำตามอะไรบ้าง เช่น:

• กฎพื้นฐาน (Foundation): เป็นกฎที่สำคัญที่สุด เช่น การกำหนดบทบาทของทีม AI (team-persona.mdc) และการกำหนด Workflow ว่าต้องเริ่มอ่านจาก Task Board ก่อนเสมอ (project-context.mdc)
• กฎการพัฒนา (Development): เป็นกฎที่เกี่ยวกับมาตรฐานการทำงาน เช่น ต้องเขียนโค้ดตามสไตล์ที่กำหนดนะ (coding-standards.mdc) และต้องวางไฟล์ให้ถูกที่ถูกทางตามโครงสร้างโปรเจกต์ (project-structure.mdc)
• กฎการเติบโต (Growth): คือกฎที่ทำให้ AI พัฒนาตัวเองได้ อย่างการเรียนรู้จากฟีดแบคของเรา (self-improvement.mdc)

การมีสารบัญแบบนี้ทำให้ AI รู้ลำดับความสำคัญและขั้นตอนการทำงานของตัวเองอย่างชัดเจน เมื่อเราสั่งงานง่ายๆ ไปว่า "เฉียบ ช่วยเพิ่มฟีเจอร์ Login ให้หน่อย" มันจะวิ่งไปเปิดสารบัญกฎนี้ก่อน แล้วไล่ทำตามขั้นตอนที่วางไว้เป๊ะๆ ตั้งแต่การเช็คบทบาทตัวเอง, การอ่านข้อมูลจากสมองกลาง, ไปจนถึงการเขียนโค้ดตามมาตรฐาน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาตรงใจและมีคุณภาพสุดๆ

---

ผลลัพธ์ที่ได้คือ... โคตรทีมเวิร์ค!

การใช้ "ระบบสมองกลาง" ควบคู่ไปกับ "ชุดกฎ" ที่มีระเบียบแบบนี้ ทำให้ AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือพิมพ์โค้ดตามสั่งอีกต่อไป แต่กลายเป็นทีมงานที่เข้าใจบริบทของโปรเจกต์อย่างลึกซึ้ง ทำงานเป็นระบบ และที่สำคัญคือ "เติบโต" และ "เรียนรู้" ไปพร้อมกับเราได้จริงๆ

ลองเอาไอเดียนี้ไปปรับใช้กันดูนะ แล้วจะค้นพบว่าการทำงานกับ AI มันส์ขึ้นเยอะ!